Ulthera SPT Program – ยิงให้ยก ต้องอัลเทอร่า เทคนิค Ultherapy Hyper-Personal Lift

Ulthera SPT Program – ยิงให้ยก ต้องอัลเทอร่า เทคนิค Ultherapy Hyper-Personal Lift

Ulthera ยิงให้ยก ต้อง SPT Program

บทความโดย พ.ญ.สรวลัย  รักชาติ

วันนี้หมอจะมาเล่าเรื่องของการรักษาแบบใหม่ของเครื่อง Ulthera ที่ไอสกายค่ะ โดยเราเริ่มการรักษาเทคนิคใหม่นี้มาตั้งแต่ต้นปี 2019 เริ่มต้นจาก ที่ไอสกายเซ็นเตอร์ ร่วมกับบริษัท Merz ได้จัดอบรมเทคนิค Ultherapy Hyper-Personal Lift  โดยมีวิทยากรจากประเทศเยอรมันนี Dr. Tatjana Pavicic เป็นผู้มาถ่ายทอดเทคนิค SPT ให้กับแพทย์ที่เป็นวิทยากรของ Merz ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งประกอบด้วยหมอจากไทย Hong Kong, Malaysia, Philippines, Australia และ Singapore โดยหมอได้เข้าร่วมการสอนนี้ถือว่าเป็นหมอกลุ่มแรกในไทยและเอเชียที่ได้เรียนเทคนิคนี้ค่ะ

 

Ulthera SPT มาจากอะไร

S- See

P- Plan

T-Treat

คงไม่มีใครอยากให้หมอปิดตาแล้วมาทำหน้าให้คุณ เพราะมีโอกาสยิงพลาด เกิดผลข้างเคียง และไม่เห็นผลได้ “We’ll NEVER treat you blindly” จึงเป็น Concept ของเครื่อง Ulthera เนื่องจาก Ulthera ยังเป็นเครื่องยกกระชับยี่ห้อเดียวที่มีระบบมองเห็นหน้าจอ ทำให้เห็นชั้นผิวระหว่างรักษาได้ ทำให้การรักษาแม่นยำ ตรงชั้นที่ต้องการยก เมื่อเทียบกับเครื่อง HIFU ที่มีในท้องตลาด นี่คือจุดแข็งอันดับ 1 ของ Ulthera

We’ll NEVER treat you blindly

 

S – See เห็นหน้าจอแบบ Real time มองเห็นชั้นผิวขณะทำ ดีอย่างไร

ยิงได้ถูกชั้นที่ต้องการยก การยกหน้าที่คล้ายการทำผ่าตัดดึงหน้า หรือ Face lift คือ การยกชั้น SMAS หรือชั้นพังผืดคลุมกล้ามเนื้อของใบหน้า ซึ่งความลึกของชั้น SMAS ซึ่งปกติมักอยู่ลึกที่ 4.5 mm แต่ว่าแต่ละคน แต่ละบริเวณจะลึกไม่เท่ากัน การมองเห็นและยิง Ulthera ได้ถูกความลึก จะทำให้การยกมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ (ยิงไม่ตรงจุด เหมือนพลาดเป้าเปลืองกระสุนค่ะ)

ได้พลังงานครบ 100% การมองเห็นหน้าจอ จะเห็นว่าพลังงานลงได้ดีหรือไม่ ลงครบทุกจุดที่ยิงไหม เพราะหัวที่ปล่อยพลังงานได้ดี ต้องแนบสนิทกับใบหน้า คลื่นเสียง Ulthera หรือเทคโนโลยี HIFU จะผ่านอากาศไม่ดีและไม่ลงสู่ผิวการทำและมองเห็นว่าพลังงานลงจริงๆจึงได้ผลดีกว่า

ไม่เสี่ยงผิวไหม และ แผลเป็น การยิงที่หัวไม่แนบกับผิว ทำให้พลังงานลงผิดชั้น หากลงที่ผิวชั้นตื้น หรือชั้นหนังกำพร้า มีโอกาสเกิดการไหม้ของผิว และทำให้เกิดแผลเป็นหลุมตามมาได้ ซึ่งปัญหานี้มักเกิดกับเครื่อง HIFU เพราะไม่มีหน้าจอให้มองเห็นขณะรักษา

P – Plan การรักษา เหมือนการขับรถ ขับรถหรู ก็ต้องมีแผนที่ถึงจะไปถึงจุดหมาย

     เพราะหน้าของคุณ ผิวของคุณไม่เหมือนใคร การยิง Ulthera จึงต้องว่างแผนการรักษาเฉพาะบุคคล แบบ Tailor-made

  สามารถดูตามรูปได้ค่ะ ว่าหน้าเราในแต่ละบริเวณ ความลึกของผิวชั้นหนังแท้ และชั้น SMAS ไม่เท่ากัน การที่หมอวางแผน Mapping การรักษาก่อนจะทำให้ยิงได้ถูกชั้นที่เห็นผลที่สุด

 

Ulthera ต้องยิงชั้นไหน ?

ชั้นหนังแท้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกระชับ ดูสดใส ลดริ้วรอย

ชั้นพังผืดคลุมกล้ามเนื้อของใบหน้า (SMAS) – กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ใบหน้ายก ดูเรียวเล็กลง กรอบหน้าชัด สันกรามชัด และสามารถลดเหนียงหรือไขมันใต้คางได้

T-Treat

รถหรูรถดีต้องขับเป็น หลายคนมีปัญหาทำแล้วไม่ยกไม่เห็นหรือเกิดปัญหาเพราะไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การยิง Ulthera ที่ได้ผล เป็นการทำงานตั้งแต่ Design การยิงให้เหมาะกับใบหน้าการเคลื่อนมือพร้อมดูหน้าจอขณะยิงเพื่อให้พลังงานลงอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องแพทย์ต้องรู้ตำแหน่งที่ห้ามยิงเพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเส้นประสาทอักเสบมุมปากตกคิ้วตกเป็นต้นรวมถึงการทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยโดยการเตรียมตัวเตรียมผิวที่ดี

ยกให้สวย ด้วยเทคนิค Hyper - Personal lift

เพราะในปัจจุบัน ผู้หญิงหลายคนไม่ได้ต้องการความสวยในเเบบเดิม ๆ อีกเเล้ว พวกเธอต้องการที่จะสวยในเเบบของตัวเอง ดังนั้น Ulthera จึงสามารถตอบโจทย์สาว ๆ ที่เปลี่ยนเเปลงความงามเเบบเดิม ให้กลายเป็นความงามเฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิค Hyper-Personal Lift เนื่องจากเเต่ละคนมีรูปหน้าเเละผิวที่ไม่เหมือนกัน Ulthera จึงถูกออกแบบมาให้มีระบบหน้าจอที่ทำให้เห็นชั้นผิวระหว่างรักษา ทำให้การรักษาเเม่นยำ ตรงชั้นผิวที่ต้องการยก

การยิง Ulthera จึงต้องวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลแบบ Customize ตั้งแต่ Design การยิงให้เหมาะกับใบหน้า การเคลื่อนมือพร้อมดูหน้าจอขณะยิง เพื่อให้พลังงานลงอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เเละเกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ Ulthera

อัลเทร่า เจ็บไหม

  • Ulthera เจ็บทนได้ค่ะ ต้องบอกว่า No pain, no gain ค่ะ เพราะคอลลาเจนใต้ผิวเราจะสร้างเมื่อมีความร้อนอุณหภูมิ 50-70 •C ลงสู่ผิวชั้นหนังแท้ด้วยความร้อนระดับนี้จะต้องมีความรู้สึกเจ็บบ้างแต่การเตรียมตัวคนไข้ที่ดีจะช่วยให้ความเจ็บลดลงค่ะ
  • การเตรียมคนไข้ของไอสกาย ก่อนทำ Ulthera
  • ทายาชาประมาณ 1-2 ชั่วโมง การทายาชาที่ปริมาณเหมาะสม ไม่น้อยเกินไป และเวลานานพอ จะทำให้ยาชาชาลึกได้ถึง 5 mm ซึ่งลึกกว่าพลังงานที่ Ulthera 4.5 จะลงไปได้ทำให้ลดความเจ็บได้
  • ให้รับประทานยาแก้ปวดก่อนการทำ Ulthera 30 นาที จากงานวิจัย พบว่าสามารถลดความเจ็บจากการทำได้จริง (แต่แนะนำให้ผู้รับบริการแจ้ง ประวัติการแพ้ยาก่อนรับบริการ)
  •  เทคนิคการยิงที่ดีช่วยลดความเจ็บได้ตั้งแต่บริเวณที่เริ่มยิงด้านของใบหน้าที่ยิงต้องบอกว่าเป็นเคล็ดลับเฉพาะตัวของแพทย์แต่ละท่านเลยค่ะ

Ulthera เห็นผลเมื่อไร

ผลที่เราต้องการจาก Ultherapy คือ การสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะสร้างมากที่สุดที่ 5-6 เดือน แต่หลังทำ คนไข้จะเริ่มสังเกตว่าใบหน้ายกกระชับ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นที่ประมาณ 2 เดือนค่ะ

อัลเทร่า อยู่ได้นานเท่าไหร่ ต้องทำบ่อยแค่ไหน

 

ปกติผลลัพธ์จะอยู่นาน 1-2 ปี แนะนำให้ทำ 1-2 ปีครั้ง ขึ้นกับอายุ และสภาพผิว หากคนไข้อายุน้อย ผิวยังคุณภาพดีสามารถสร้างคอลลาเจนได้เยอะ ผลจะอยู่ยาว ส่วนคนไข้อายุมาก ผิวมีความหย่อนคล้อยมาก อาจจะต้องทำถี่กว่าปกติ เช่น 6 เดือนครั้ง

Tips! โดยส่วนตัว หมอแนะนำให้ทำ Ulthera สลับกับ Thermage FLX เพราะพลังงานลงได้ต่างชั้นกันและบริเวณที่ยิงได้ต่างกันหากทำสลับกันจะช่วยเสริมผลการกระตุ้นคอลลาเจนและแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ดียิงขึ้นค่ะ

อัลเทร่า ทำบริเวณไหนได้บ้าง

  • ใบหน้า
  •  รอบดวงตา
  •  แก้ม
  • ใต้คาง หรือเหนียง
  •  ลำคอ
  •  ผิวหน้าอก
  •  หน้าท้อง และ ท้องแขน มีงานวิจัยว่าสามารถทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย เช่น หน้าท้องหลังคลอดลูกเรียบเนียนขึ้น หรือท้องแขนห้อย ขนาดลดลง แขนดูเล็กลง

ผลลัพธ์ที่ได้จาก Ultherapy คืออะไร

  • หน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด หน้าดูเล็กลง
  • ผิวดูกระชับ เรียบเนียนขึ้น
  • ลดริ้วรอย
  • ลดถุงใต้ตา
  • ยกคิ้ว
  • ลดความหย่อนคล้อยใต้คาง
  • ผิวคอเรียบ กระชับมากขึ้น

อัลเทร่า ยกคิ้วได้จริงไหม

 

Ulthera ผ่านการรับรองจาก US-FDA เรื่องการยกคิ้ว โดยอ้างอิงจากงานวิจัยที่ทำในอาสาสมัครและเปรียบเทียบรูปพบว่าคนไข้คิวยกขึ้น 1.7 มิลลิเมตรหลังจากทำ Ulthera ไป 90 วัน และ 9 ใน 10 คนเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ผลที่ได้คือ คิ้วยก ชั้นตายก ตาดูเปิดขึ้น ทำให้ดูเด็กลง และผิวบริเวณที่ทำดูเรียบเนียนขึ้น

ข้อปฏิบัติหลังทำอัลเทอร่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้บ้าง

ผลหลังทำ Ulthera ผิวอาจจะรู้สึกอุ่นๆ สีชมพูหรือแดงเล็กน้อย และค่อยๆหายไป ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นหน้า บางคนอาจจะมีอาการบวมได้ 1-2 สัปดาห์ กดละรู้สึกระบมผิวบริเวณที่ทำ ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติที่เจอได้ หลังทำ Ulthera จึงไม่ได้มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษ สามารถแต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่เนื่องจากการทำจะมีความร้อนสะสมใต้ผิว แนะนำว่าหลังทำอาจจะงดการทำหัตถการที่ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิว เช่น เลเซอร์ หรือ RF เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากความร้อนสะสมที่มากเกินไป เว้นการนวดหน้า กดหน้า เพื่อลดการระบมและการบวมหลังทำ Ulthera 1-2 สัปดาห์

จริงๆ หลังทำ Ulthera ไม่ได้จำเป็นต้องหลบแดดเนื่องจากไม่ใช่เลเซอร์หรือแสงรักษาแต่การโดนแดดมากๆจะทำลายคอลลาเจนใต้ผิวเราได้ค่ะ

หลังทำ Ulthera หากมีอาการระบมผิว สามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล (Paracetamol) ได้ แต่ไม่ควรกินยาแก้ปวดแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs เพราะอาจรบกวนกระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ค่ะซึ่งผลหลังทำเราต้องการให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนเยอะๆเพื่อทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยกกระชับค่ะ

Ulthera ต่างจาก Thermage FLX อย่างไร

Ulthera เป็นเทคโนโลยีคลื่นเสียงความเข้มข้นสูง ที่ทำให้เกิดจุดความร้อนใต้ผิว ซึ่งลงได้ลึกถึงชั้น SMAS และผิวหนังชั้นลึก การลงของพลังงาน เนื่องจากเป็นคลื่นเสียง จึงลงเป็นจุดๆ การทำจึงนับเป็น Line และต้องทำซ้อนๆกัน จึงมีหัวความลึก 4.5, 3.0 และ 1.5 mm ซึ่งหมายถึงความลึกที่พลังงานสามารถลงไปได้ในชั้นผิว หัว 4.5 ลงลึก 4.5 mm ใช้ยิงยกชั้น SMAS

แต่หากคนที่หน้ามีแก้มเยอะ หรือชั้นไขมันหนา พลังงานหัว 4.5 จะลงไม่ถึงชั้น SMAS ทำให้ผลการยกกระชับหน้าไม่ดีเท่าทีควรจึงเป็นสิ่งที่แพทย์จะช่วยประเมินว่าคนไข้รูปหน้าแบบไหนเหมาะกับเครื่องอะไรคะ

Ulthera ช่วยในเรื่องยกใบหน้า ทำให้กรอบหน้าชัด ยกคิ้ว ส่วน Thermage FLX ช่วยเรื่องกระชับใบหน้า

Thermage กระชับใบหน้าคล้ายๆทำให้ผิวดูแพ็กกันแน่นขึ้นหมายถึงผิวที่มีการสร้างคอลลาเจนจะโอบอุ้มชั้นไขมันที่อยู่กันหลวมๆหรือห้อยๆให้เกาะแน่นเข้าหากันเหมือนตาข่ายห่อลูกฟุตบอลค่ะ

ส่วนเทคโนโลยีของ Thermage คือ คลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency, RF) เวลาปล่อยพลังงาน จะลงไปเป็นก้อนตั้งแต่ผิวชั้นบน ไปจนผิวชั้นลึก โดยลงลึกได้ประมาณ 4.3 mm ความร้อนใต้ผิวจะค่อยๆสะสมเพิ่มขึ้นๆ จนถึงระดับที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเมื่อทำหลายๆ Shot ค่ะ เป็นสาเหตุให้ เวลาทำ Thermage จึงนับเป็น Shot

คนท้อง ตั้งครรภ์ ทำอัลเทอร่าได้ไหม

ไม่แนะนำค่ะ

ถึง Ulthera จะเป็นเทคโนโลยีคลื่นเสียง Ultrasound ซึ่งคล้ายกับการทำอัลตราซาวน์ดูพัฒนาการเด็กในครรภ์ แม้การทำบริเวณใบหน้าหรือลำคอจะไม่ได้มีผลกับทารกในครรภ์โดยตรง แต่เนื่องจากการทำอาจจะเจ็บหรือปวด ซึ่งอาจส่งผลเรื่องการเพิ่มความเครียดของแม่ หรือส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูก และโดยปกติไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการตั้งครรภ์จะปกติจนถึงเวลาคลอด 40 สัปดาห์ เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย หมอแนะนำว่าขณะท้อง ไม่ควรทำ Ulthera ค่ะ คลอดก่อนแล้วค่อยมาสวยได้ค่ะ

* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

 

นัดปรึกษาทำ Ulthera  คลิก!